Thai , English , Chinese and Japan Word Counter
รองรับ: ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษาญี่ปุ่น (นับได้หลายภาษาในครั้งเดียว)
สรุปภาพรวม
| จำนวนหน่วยคำ/ตัวอักษรรวม (ตามวิธีนับด้านล่าง) | 0 |
| จำนวนตัวอักษรรวม (รวมช่องว่าง) | 0 |
| จำนวนตัวอักษรรวม (ไม่รวมช่องว่าง) | 0 |
| จำนวนบรรทัด | 0 |
เวลาประมาณในการอ่าน (Estimated Reading Time)
| จำนวนคำที่ใช้คำนวณ | 0 |
| เวลาอ่านโดยประมาณ (ที่ 200 คำ/นาที) | 0 วินาที |
ระดับความอ่านง่าย (Readability)
| จำนวนประโยค (ประมาณ) | 0 |
| จำนวนคำเฉลี่ยต่อประโยค | 0 |
| จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยต่อคำ | 0 |
| Flesch Reading Ease (อังกฤษ) | N/A |
สัดส่วนภาษา (Language Percentage)
| ยังไม่มีข้อมูล |
กราฟสัดส่วนภาษา (Language Pie)
Top คำภาษาอังกฤษ (Latin Words)
แยกตามภาษา/รูปแบบ
| ภาษาอังกฤษ / ภาษาอื่นที่เว้นวรรคเป็นคำ (นับเป็น “คำ”) | 0 |
| ไทย + จีน + ญี่ปุ่น (นับเป็นจำนวน “ตัวอักษร”) | 0 |
แจกแจงคำ & Keyword Density
* สามารถคลิกที่แถวในตารางเพื่อไฮไลต์คำ/ประโยคในตัวอย่างข้อความด้านล่าง
1) ภาษาอังกฤษ / ภาษาเว้นวรรค
| ยังไม่มีข้อมูล |
2) ไทย + จีน + ญี่ปุ่น (นับเป็นตัวอักษร)
| ยังไม่มีข้อมูล |
ประโยคที่ซ้ำกัน (Duplicate Sentences)
| ยังไม่มีข้อมูล |
ตัวอย่างข้อความพร้อมไฮไลต์คำ/ประโยคที่เลือก
Export ข้อมูลผลลัพธ์
SEO Mode – วิเคราะห์คีย์เวิร์ดตามส่วนของหน้า
Title
Meta Description
Secondary Keywords
Page Type & Target Keyword
| ยังไม่มีข้อมูล |
Heading SEO (H1–H6)
| ยังไม่มีข้อมูล (ยังไม่มีหัวข้อใน Body หรือยังไม่ได้ให้เครื่องมือวิเคราะห์) |
Secondary Keywords Summary
แสดงผลคีย์เวิร์ดรอง (Secondary) แต่ละคำ ว่าปรากฏใน Title / Meta / Body บ่อยแค่ไหน
| ยังไม่มีข้อมูล (ยังไม่ได้ใส่ Secondary Keywords) |
Top Latin Keywords
จากเนื้อหา Body (หลังตัด stop words ตามที่ตั้งไว้ด้านบน)
| ยังไม่มีข้อมูล |
Top Thai Keywords (ใช้ตัวตัดคำ หากเบราว์เซอร์รองรับ)
| ยังไม่มีข้อมูล |
• ภาษาอังกฤษ/ภาษาเว้นวรรค: นับเป็น “คำ” ตามช่องว่าง
• ไทย/จีน/ญี่ปุ่น: นับเป็น “ตัวอักษร” (ไม่ใช่การตัดคำแบบภาษาศาสตร์)
** การแจกแจง “คำภาษาไทย” จะทำงานเมื่อเบราว์เซอร์รองรับ Intl.Segmenter เท่านั้น
*** ปุ่มดาวน์โหลด CSV/JSON/PDF จะดาวน์โหลดจากผลล่าสุดที่แสดงอยู่บนหน้าจอ
**** Readability (Flesch Reading Ease) เป็นค่าประมาณสำหรับข้อความภาษาอังกฤษ
***** Keyword Density / Preset เป็นค่าช่วยวิเคราะห์เบื้องต้น (ไม่ใช่กฎตายตัว)
🟦 เครื่องมือนับคำออนไลน์หลายภาษา ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ที่ทรงพลังและใช้งานง่ายที่สุดในปีนี้
โลกของการเขียนออนไลน์กำลังก้าวไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเทนต์ การตลาด SEO การเขียนบทความเชิงวิชาการ หรือแม้แต่โพสต์บนโซเชียล เครื่องมือนับคำออนไลน์ (Multilingual Word Counter) ได้กลายเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาเข้าใจโครงสร้างข้อความของตัวเองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องเขียน หลายภาษาในบทความเดียว เช่น ไทย อังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่น เครื่องมือธรรมดาอาจนับคำผิดพลาด แต่เครื่องมือรุ่นใหม่ที่รองรับหลายภาษาสามารถนับได้อย่างแม่นยำและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้าน SEO ได้พร้อมกัน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักฟีเจอร์ ประโยชน์ เทคนิคการใช้งาน และเคล็ดลับ SEO ของ “เครื่องมือนับคำออนไลน์หลายภาษา” ที่ได้รับการอัปเดตล่าสุด ทำให้เหมาะกับทั้งนักเขียน นักการตลาดออนไลน์ Blogger และนักเรียน–นักศึกษาที่ต้องทำรายงานจำนวนคำอย่างเคร่งครัด
🟩 ความสำคัญของการนับคำในยุคดิจิทัล
การนับคำไม่ได้เป็นเพียงการนับจำนวนตัวอักษรหรือจำนวนคำอีกต่อไป แต่เป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานด้าน:
- SEO (Search Engine Optimization) เพื่อวิเคราะห์ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด
- UX Writing จัดรูปแบบข้อความให้สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย
- Academic Writing ต้องส่งงานตามจำนวนคำที่กำหนด
- Social Media Content เช่น Twitter, Facebook หรือ TikTok ที่ต้องคุมความยาวข้อความ
- การแปลหลายภาษา เพื่อให้จำนวนคำสอดคล้องกับต้นฉบับ
🟧 เครื่องนับคำแบบหลายภาษาคืออะไร? และดีกว่า Word Counter ทั่วไปอย่างไร
เครื่องมือทั่วไปมักนับคำได้เฉพาะภาษาอังกฤษหรือภาษาที่ใช้เว้นวรรค แต่เครื่องนับคำออนไลน์รุ่นใหม่ที่รองรับ ภาษาไทย จีน ญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ ได้ออกแบบระบบนับคำอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น:
🟦 ข้อดีที่เหนือกว่าเครื่องนับคำแบบเดิม
- นับคำไทยได้แม่นยำ แม้ภาษาไทยไม่มีช่องว่าง
- รองรับอักขระจีนและญี่ปุ่น ซึ่งใช้อักษรต่อเนื่อง
- วิเคราะห์จำนวนตัวอักษรแบบละเอียด เช่น
- รวมช่องว่าง
- ไม่รวมช่องว่าง
- จำนวนบรรทัด
- ประมวลผลความหนาแน่นคีย์เวิร์ด (Keyword Density) สำหรับงาน SEO
- แจกแจงคำ (Word Frequency) เพื่อดู Top Keywords ของบทความ
- รองรับข้อความยาวมาก โดยไม่ทำให้เว็บช้าหรือค้าง
🟩 ฟีเจอร์เด่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและ SEO
🟦 1) นับคำและตัวอักษรได้หลายภาษาในทันที
รองรับการนับ:
- คำภาษาอังกฤษ
- ตัวอักษรภาษาไทย
- ตัวอักษรจีน (Han)
- ตัวอักษรญี่ปุ่น (Hiragana / Katakana)
- ตัวเลข
- สัญลักษณ์พิเศษ
ระบบจะประมวลผลแบบ Real-time ขณะพิมพ์โดยไม่ต้องกดปุ่ม Refresh
🟦 2) แจกแจงคำ (Word Frequency Analysis) แบบละเอียด
หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญสำหรับสาย SEO และนักเขียนคอนเทนต์ เพราะสามารถบอกได้ทันทีว่า:
- คำไหนใช้บ่อยที่สุด
- คีย์เวิร์ดหลักอยู่ในอันดับที่เท่าไร
- มีคำฟุ่มเฟือยหรือไม่
- มีคำซ้ำมากผิดปกติหรือเปล่า
🟦 รายงานที่เครื่องมือสามารถแสดงได้ เช่น:
- อันดับคำที่ใช้มากที่สุด
- จำนวนครั้งที่ปรากฏ
- สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ต่อข้อความทั้งหมด
- แยกภาษาตามหมวด เช่น Thai Words / Latin Words / Chinese Characters
🟦 3) อ่านไฟล์อัตโนมัติ (.docx .pdf .txt)
เครื่องมือสามารถ Import ได้แบบยืดหยุ่นด้วย:
- Import และทับข้อความเดิม (Overwrite)
- Import แบบต่อท้ายข้อความ (Append)
- เลือกช่วงหน้า PDF (Page 1–3 เป็นต้น)
เหมาะกับนักศึกษาที่ต้องอ่านไฟล์งานวิจัย หรือ SEO Specialist ที่ต้องตรวจบทความยาว ๆ หลายหน้า
🟦 4) โหมด SEO (SEO Analysis Mode)
ระบบจะช่วยวิเคราะห์ด้าน SEO ให้ครบ เช่น:
- Target Keyword
- Secondary Keywords
- Keyword Density ของ Title / Meta / Body
- แสดงว่าใช้คีย์เวิร์ดมากเกินไปหรือน้อยไป
- วิเคราะห์หัวข้อ H1–H6 เพื่อจัดโครงสร้างเนื้อหาได้ถูกต้อง
🟦 ข้อดีของ SEO Mode
- เหมาะสำหรับบทความรีวิว
- เหมาะสำหรับ Landing Page
- ช่วยให้ Google อ่านคอนเทนต์ได้ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงโดน Over-Optimization
🟦 5) วิเคราะห์ความอ่านง่าย (Readability)
ช่วยตรวจสอบว่าเนื้อหาอ่านง่ายหรือไม่ เช่น:
- จำนวนประโยค
- คำเฉลี่ยต่อประโยค
- คะแนน Flesch Reading Ease
- ใช้ร่วมกับข้อความภาษาอังกฤษได้ดีมาก
🟥 ประโยชน์สำหรับสายงานต่าง ๆ
🟦 ผู้เขียนคอนเทนต์ (Content Creator)
- ทำให้ควบคุมจำนวนคำได้ง่าย
- ช่วยจัดการคีย์เวิร์ด SEO
- เช็กคำซ้ำและคำฟุ่มเฟือยได้รวดเร็ว
🟦 นักแปล (Translator)
- เทียบจำนวนคำต้นฉบับกับคำแปล
- ใช้ตรวจภาษาที่ปะปนกันในเนื้อหา
🟦 นักศึกษาและอาจารย์
- ส่งงานตามจำนวนคำที่กำหนด
- ใช้วิเคราะห์รายงานหรือบทความวิชาการ
🟦 นักการตลาดดิจิทัล
- สร้างคอนเทนต์ที่ Google ชอบ
- ทำ Content Audit ได้ง่ายขึ้น
🟪 ตัวอย่างขั้นตอนใช้งานแบบง่าย (Step-by-Step Guide)
🟦 วิธีใช้งานเครื่องมือนับคำอย่างถูกต้อง
🟦 ขั้นตอนที่ 1 – วางข้อความลงในเครื่องมือ
เพียงคัดลอกข้อความแล้ววางลงในกล่องข้อความ เครื่องมือจะเริ่มนับโดยอัตโนมัติ
🟦 ขั้นตอนที่ 2 – อ่านผลวิเคราะห์
คุณจะเห็นข้อมูล เช่น:
- Total Words
- Total Characters
- Keyword Density
- Top Keywords
🟦 ขั้นตอนที่ 3 – ปรับแก้คอนเทนต์ตามผลลัพธ์
- ถ้าคีย์เวิร์ดมากเกินไป ให้ตัดออก
- ถ้าน้อยเกินไป เพิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
- หากประโยคยาวเกินไป ให้แบ่งเป็นประโยคสั้น ๆ
🟩 เคล็ดลับทำ SEO ให้ดียิ่งขึ้นด้วยเครื่องนับคำออนไลน์
🟦 เทคนิคที่ควรรู้
- ใช้ Keyword Density ประมาณ 0.8% – 2.5% สำหรับบทความทั่วไป
- Title ควรมีคีย์เวิร์ด 1 ครั้ง
- Meta Description ควรมีคีย์เวิร์ดสำคัญ 1–2 ครั้ง
- หลีกเลี่ยงการยัดคำ (Keyword Stuffing)
- ใช้ H2/H3 แบ่งหัวข้อให้ชัดเจน
🟦 โครงสร้างบทความที่ Google ชอบ
- H1 = ชื่อบทความหลัก
- H2 = หัวข้อสำคัญ
- H3 = รายละเอียดของหัวข้อนั้น
- Bullet Points = เพิ่มความอ่านง่าย
- ย่อหน้าสั้น = UX ดีขึ้น
🟦 สรุป — ทำไมเครื่องมือนับคำหลายภาษาถึงจำเป็นสำหรับยุคนี้
เครื่องนับคำออนไลน์ที่รองรับ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือนับคำธรรมดา แต่เป็นผู้ช่วยด้าน SEO ที่ทรงพลัง ช่วยให้คุณ:
- เขียนคอนเทนต์คุณภาพสูง
- ปรับแต่ง SEO ได้ละเอียด
- ควบคุมจำนวนคำได้อย่างแม่นยำ
- ตรวจคำซ้ำ คีย์เวิร์ดซ้ำ และความอ่านง่าย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำคอนเทนต์อย่างมืออาชีพในยุคที่การเขียนคุณภาพคือกุญแจสำคัญของการทำอันดับบน Google




