Home สอน Windows 11 วิธีเพิ่มพลัง Ultimate Performance ให้ระบบ Windows 11

วิธีเพิ่มพลัง Ultimate Performance ให้ระบบ Windows 11

66
0
วิธีเพิ่มพลัง Ultimate Performance ให้ระบบ Windows 11

การทำให้ Windows 11 ทำงานเต็มประสิทธิภาพ (Ultimate Performance) เป็นเป้าหมายที่ผู้ใช้จำนวนมากต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ ผู้ใช้งานด้านตัดต่อวิดีโอ งานกราฟิก หรือผู้ที่ต้องการความลื่นไหลเหนือระดับ การปรับแต่งเพื่อรีดพลังของระบบไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจขั้นตอนและองค์ประกอบสำคัญของระบบปฏิบัติการ ในบทความนี้เราจะพาคุณอัปเกรดพลังงานของเครื่องให้ทำงานรวดเร็วขึ้นอย่างเห็นผล พร้อมเคล็ดลับเชิงเทคนิคและแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพที่เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับ

ทำไมโหมด Ultimate Performance ถึงสำคัญ?

โหมด Ultimate Performance คือโหมดพลังงานสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ ลดความหน่วง (latency) และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองของระบบ โดยโหมดนี้ออกแบบมาเพื่อ:

  • ลดกระบวนการประหยัดพลังงานที่ไม่จำเป็น
  • เพิ่มความลื่นไหลของ Windows ในงานหนัก
  • เพิ่มเสถียรภาพเมื่อใช้งานซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่
  • ทำให้ฮาร์ดแวร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่าโหมดนี้มักใช้ในเวิร์กสเตชันหรือพีซีระดับสูง แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถเปิดใช้งานได้เช่นกัน—และให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

วิธีเปิดใช้ Ultimate Performance บน Windows 11

ขั้นตอนที่ 1: เปิดใช้งานโหมด Ultimate Performance ผ่าน PowerShell

ถึงแม้ Windows 11 ไม่แสดงโหมดนี้ในหน้าตั้งค่าโดยตรง แต่เราสามารถเปิดใช้ด้วยคำสั่งง่าย ๆ

คำสั่งเปิดโหมด Ultimate Performance

เปิด PowerShell (Run as Administrator) แล้วพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้:

powercfg -duplicatescheme e9a42b02-d5df-448d-aa00-03f14749eb61

เมื่อกด Enter จะเป็นการเพิ่มแผนพลังงานเข้าไปในระบบทันที

ขั้นตอนที่ 2: เลือกโหมดพลังงานจาก Settings

หลังจากเพิ่มโหมดแล้ว ให้ไปที่:

  1. Settings
  2. System > Power & Battery
  3. เลือก Power mode → Ultimate Performance

หากยังไม่ปรากฏ ให้รีสตาร์ตเครื่องหนึ่งครั้งเพื่อให้ Windows โหลดการตั้งค่าใหม่

เคล็ดลับเสริมการเพิ่มความเร็ว Windows 11 ควบคู่กับ Ultimate Performance

แม้โหมดนี้จะช่วยให้ระบบเร็วขึ้นแล้ว แต่ยังมีการตั้งค่าเพิ่มเติมที่ช่วยให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแบบ synergized ตามหลัก SEO และเทคนิค IT ที่แนะนำ

ปิดแอนิเมชันเพื่อให้การตอบสนองไวขึ้น

Windows 11 มีแอนิเมชันที่ดูสวยงามแต่กินทรัพยากรเล็กน้อย หากต้องการความเร็วสูงสุด สามารถปิดได้

วิธีปิดแอนิเมชัน

ไปที่:

  1. Settings
  2. Accessibility
  3. Visual Effects
  4. ปิด Animation effects

ผลลัพธ์: หน้าต่างเปิดไวขึ้น สลับงานได้เร็วยิ่งกว่าเดิม

เพิ่มความเร็วด้วยการ Optimize Startup Apps

แอปที่เปิดอัตโนมัติเมื่อบูตเครื่องส่งผลให้เครื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

วิธีปิด Startup Apps ที่ไม่จำเป็น

  • เปิด Task Manager
  • ไปที่แท็บ Startup apps
  • ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น เช่น Discord, Teams, หรือแอปที่ไม่ได้ใช้งานตลอดเวลา

ตัวอย่างแอปที่แนะนำให้ปิด

  • ระบบ Sync ต่าง ๆ
  • โปรแกรมทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น
  • Launcher ของเกมที่ไม่ได้เปิดบ่อย

ปรับแต่งการตั้งค่า Storage ให้ระบบอ่าน–เขียนไวขึ้น

เปิดฟังก์ชัน Storage Sense

Storage Sense ช่วยจัดการไฟล์ขยะ ชั่วคราว และระบบต่าง ๆ เพื่อให้ Windows ทำงานได้รวดเร็วขึ้น

ข้อดีของ Storage Sense

  • ลบ Temporary files อัตโนมัติ
  • ลดพื้นที่เก็บข้อมูลที่ไม่จำเป็น
  • ทำให้ SSD ทำงานเร็วขึ้นและยืดอายุการใช้งาน

ใช้ฟีเจอร์ Disk Cleanup แบบลึก (Deep Cleanup)

วิธีทำ Deep Cleanup

  1. กดปุ่ม Windows พิมพ์คำว่า “Disk Cleanup”
  2. เลือก Clean up system files
  3. ติ๊กไฟล์ที่ไม่ต้องการ เช่น
    • Windows Update cache
    • Temporary system files
    • DirectX shader cache

ปรับแต่ง GPU เพื่อเพิ่มเฟรมเรตและความเสถียร

ตั้งค่ากราฟิกเป็น High Performance

การเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่เล่นเกมหรือใช้โปรแกรม 3D

วิธีปรับ

  1. Settings
  2. System → Display
  3. Graphics
  4. เลือกแอป → Options → High Performance

ประโยชน์

  • เฟรมเรตสูงขึ้น
  • ความเสถียรดีขึ้น
  • ใช้พลังจาก GPU ได้เต็มที่

อัปเดตไดรเวอร์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ไดรเวอร์ที่ล้าสมัยอาจทำให้เครื่องช้าลงหรือเกิดอาการค้าง

ช่องทางอัปเดตไดรเวอร์หลัก

  • Windows Update
  • เว็บไซต์ผู้ผลิต GPU เช่น NVIDIA, AMD หรือ Intel
  • โปรแกรมไดรเวอร์จากผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก

ใช้ฟีเจอร์ Virtualization-Based Security อย่างถูกต้อง

บางครั้ง VBS ทำให้เครื่องช้าลงเล็กน้อย หากไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูง อาจพิจารณาปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

วิธีตรวจสอบ

  1. เปิด Windows Security
  2. เลือก Device Security
  3. ดูสถานะของ Core Isolation

หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้เกี่ยวกับความปลอดภัย ควรใช้ตามความเหมาะสม

ปรับแต่ง Registry แบบปลอดภัยเพื่อเพิ่มความเร็วเล็กน้อย

ตั้งค่าเพิ่มความเร็วเมนูและการตอบสนอง

ไปที่ Registry Editor:

HKEY_CURRENT_USER\Control Panel\Desktop

ตั้งค่า:

  • MenuShowDelay = 0 (ทำให้เมนูเปิดเร็วขึ้น)

คำเตือน: ควรสำรอง Registry ก่อนแก้ไขทุกครั้ง

เทคนิคเสริมที่ช่วยให้ Windows 11 ทำงานได้เต็มกำลัง

Bullet Points เทคนิคเสริม

  • ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป
  • ล้างแคชของ Microsoft Store
  • ปิด OneDrive Sync หากไม่ใช้งาน
  • จัดการแอปที่ใช้ RAM เยอะ
  • ใช้ SSD แบบ NVMe เพื่อความเร็วสูงสุด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเพิ่มพลัง Ultimate Performance

โหมด Ultimate Performance ใช้ไฟเยอะไหม?

ใช่ แต่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่น เล่นเกมหรือทำงานหนักๆ

ใช้กับโน้ตบุ๊กได้ไหม?

ได้ แต่แบตอาจหมดเร็วขึ้น แนะนำใช้เมื่อเสียบสายชาร์จ

จำเป็นต้องเปิดโหมดนี้ตลอดเวลาหรือไม่?

ไม่จำเป็น คุณสามารถสลับไปโหมด Balanced เมื่อไม่ต้องการความเร็วเต็มพิกัด

สรุป — Ultimate Performance ช่วยเพิ่มพลัง Windows 11 ได้จริง

โหมด Ultimate Performance ทำให้เครื่องของคุณตอบสนองไวขึ้น ลื่นขึ้น และเหมาะสำหรับทั้งงานหนักและการเล่นเกม หากคุณต้องการรีดพลังของ Windows 11 อย่างเต็มที่ การเปิดโหมดนี้ควบคู่กับเทคนิคปรับแต่งอื่น ๆ ที่กล่าวไป จะช่วยให้ระบบของคุณทำงานได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here